5 สุดยอดเสียงลึกลับของโลกที่มีการบันทึกได้




บทความนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ผมได้ดูคลิปคลิปหนึ่ง ในยูทูบ ซึ่งก็คือคลิปนี้ https://youtu.be/-c7hCWwTlrY ผมเห็นว่ามันน่าสนใจมากๆ ผมจึงออกค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมาเขียนบทความนี้ เรามาดูกันว่ามีเสียงลึกลับอะไรกันบ้างเชิญชมกันได้เลย (ฟังเสียงตัวอย่างได้ในคลิปที่แปะได้เลยครับ)



 



5.UVB-76 Numbers Station

เป็นคลื่นสั้นๆของสถานีวิทยุในรัสเซีย โดยจะสามารถรับฟังได้โดยหมุนไปที่ความถี่ที่ 4,625 kHz หรือที่รู้จักกันในนาม Buzzer โดยนอกจากจะมีเสียงที่เล่นซ้ำๆและคุณภาพเสียงที่แย่แล้ว ยังมีการพูดข้อความแปลกๆเหมือนระหัสลับอะไรสักอย่าง เช่น ที่ 2100 UTC 24 ธันวาคม 1997 มีรหัสออกมาว่า "Ya, UVB-76, 18008, BROMAL, Boris, Roman, Olga, Mikhail, Anna, Larisa, 742, 799, 14.

โดยมีการเล่นเสียงซ้ำ 25 เสียงต่อวัน ส่วนสถานที่ตั้งของสถานีลึกลับนี้มีอยู่จริง โดยตั้งอยู่ที่ตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก โดยตอนแรกมันได้ถูกปกปิดเป็นความลับจนถึงปี 1997 และได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน

โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงของการออกอากาศยังไม่ทราบแน่ชัด โดยหลายคนคาดว่าน่าจะเป็นการส่งระหัสลับเพื่อทางการทหาร หรือเกี่ยวข้องกับความลับของราชการบางอย่าง






 
4.The BLOOP

The Bloop เป็นเสียงความถี่ต่ำปริศนา ซึ่งบันทึกได้ในในช่วงฤดูร้อนของปี 1997 โดยองค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ซึ่งถูกตรวจจับได้โดยเครื่องตรวจจับคลื่นเสียงใต้น้ำ ที่สร้างมาเพื่อตรวจจับเสียงของเรือดำน้ำของโซเวียต โดยสามารถระบุได้ว่าเป็นบริเวณ 50°S 100°W / 50°S 100°W (ชาย ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาใต้) (ถ้านึกไม่ออกดูรูป ที่นี่)

โดยจุดกำเนิดเสียงนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ระเบิด หรือเรือดำน้ำ และไม่ใช่เสียงของภูเขาไฟระเบิดหรือแผ่นดินไหวเช่นกัน หรือเสียงจากสิ่งมีชีวิตก็ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเสียงของมันดังกว่าเสียงที่ดังที่สุดของสัตว์ที่ใหญ่ที่สุด (นั่นก็คือปลาวาฬสีน้ำเงิน) เป็นหลายเท่าตัว นั่นแปลว่า ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมาละก็ มันจะใหญ่โตมโหฬารอย่างมาก

โดยคำอธิบายเดียวที่มีคือ เสียงน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกออกในแอนตาร์กติกา แต่ก็ยังไร้หลักฐาน และมันยังคงเป็นปริศนาต่อไป
นอกจาก The Bloop แล้ว NOAA ยังจับเสียงแปลกๆอื่นๆได้อีก ไปอ่านที่ http://tanbabasnake.exteen.com/20120621/entry ได้เลยครับ 






 
3.The HUM

The Hum หรือเรียกกันในอีกอย่างคือ “Bristol Hum" และ "Taos Hum" เป็นเสียงต่ำแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และยุโรปเหนือ เป็นเสียงฮัมต่ำคล้ายๆ เครื่องยนต์ดีเซล หรือ เครื่องใช้ในครัวเรือน เสียงจราจรเป็นต้น

โดยเจ้าเสียงนี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เป็นจังหวะเป็นระยะแบบสม่ำเสมอกันและ เสียงนี้จะเข้มข้นตอนกลางคืน ทำให้ผู้ที่ได้ยินเกิดความรำคาญ จนเกิดความเครียด บางรายอาจถึงขั้นคุ้มคลั่ง จนต้องฆ่าตัวตายกันก็มี

ใน ปี 1977 มีนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสำรวจและวัดคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาในท้องที่และรอบๆ เมือง Taos ในนิวเม็กซิโก ด้วยไมโครโฟนแบบพิเศษ และพบว่าเจ้า The Hum นี้ มีความถี่ของเสียงอยู่ที่ประมาณ 30-80 Hz ใช่ว่าทุกคนจะได้ยินเสียงนี้ โดยประชาชนในเมือง Taos เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้ โดยสาเหตุของการเกิดเสียงนั้นก็ยังเป็นปริศนาอยู่

แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์สมัครเล่นและประชาชนที่สนใจเสียงประหลาดนี้ ซึ่งถ้าลองค้นหาในยูทูบจะพบกับคลิปเสียง The Hum มากมายที่ถูกอัพโหลด ซึ่งบ้างก็ของจริงบ้างก็ของปลอม…





 
2.Mystery Booms

เสียงประหลาดในอันดับสองนั้นมีชื่อเรียกหลากหลายมาก เช่น Mistpouffers, Skyquakes, Barisal Guns, uminari, Guns of the Seneca และอื่นๆอีกมากมายตามภูมิภาค สถานที่และประเทศต่างๆ มีลักษณะเป็นเสียงปืนใหญ่หรือเสียงระเบิดดังมากๆ บางครั้งก็เสียงเหมือนฟ้าร้องทั้งๆที่ไม่มีฝนตก

ส่วนใหญ่เสียงมักปรากฏในชุมชนริมแม่น้ำหลายแห่งทั่วโลก เช่นริมฝั่งแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียฝั่งตันตก, ฝั่งน้ำจืด Finger Lakes ของ สหรัฐอเมริกา, ทะเลเหนือของญี่ปุ่น, อิตาลี (ไม่รู้ว่ากรุงเทพก็มีหรือป่าว ฮ่าๆ)

โดยข้อสันนิษฐานถูกนำมาอธิบายปรากฏการณ์นี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสียง Sonic booms จากการทดสอบเครื่องบิน หรือการทดลองขีปนาวุติอย่างลับๆ, การระเบิดของแก๊สธรรมชาติใต้น้ำ, ปรากกฎการณ์ของชั้นบรรยากาศ, ดาวตก แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุนซึ่งทำให้มันยังคงเป็นปริศนาต่อไป







1.52-hertz Whale

52-hertz Whale ได้ถูกค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ WHOI (Woods Hole Oceanographic Institution) ในปี 1989 และจับเสียงได้อีกครั้งในปี 1990 และ 1991 ซึ่งเชื่อว่าเป็นเสียงของวาฬ แต่มันแปลกกว่าเพื่อนๆ ด้วยการมีเสียงที่ความถี่ 52-hertz ซึ่งเป็นความถี่ไม่เหมือนกับวาฬไหนๆ ในโลกเลย

มันได้รับฉายาว่า “วาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” อันเนื่องมาจากเสียงที่ความถี่ 52-hertz เป็นความถี่ที่ไม่มีวาฬตัวไหนได้ยิน มันจึงต้องเดินทางอย่างโดดเดี่ยวตลอดเวลา 

สาเหตุที่ทำให้ 52-hertz ต่างจากวาฬตัวอื่น อาจมาจากความพิการ หรือเผ่าพันธุ์ผสมพิเศษซึ่งเกิดได้ยากมากระหว่างวาฬสีน้ำเงินกับวาฬฟิน
แม้นักวิจัยจะไม่ทราบอายุที่แน่ชัดของ 52-hertz แต่จากการค้นพบเสียงครั้งแรกเมื่อปี 1989 และค้นพบครั้งล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ในแถบชายฝั่ง Alaska ก็ทำให้ทราบได้ว่ามันผ่านชีวิตมาแล้วยี่สิบปีและยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป (ดูเส้นทางการเคลื่อนที่ทั้งหมดตั้งแต่การค้นพบครั้งแรกได้ ที่นี่)
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการค้นพบเจ้า 52-hertz ตัวเป็นๆเลยสักครั้ง และการติดตามเจ้า 52-hertz Whale ยังคงดำเนินต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนจาก U.S. Army Corps of Engineers, the Department of Defense, และ the National Marine Fisheries Service,


Comments

  1. สงสารปลาวาฬตัวนั้นอ่ะ TT

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

วิธีลงทะเบียนรับโปรแกรม CLIP STUDIO PAINT PRO ฟรี สำหรับผู้ที่ไช้ Wacom Intuos

ปู่สังกะสา ย่าสังกะสี : ตำนานผู้สร้างโลกฉบับอีสาน